ข่าวประชาสัมพันธ์

ทีโอที โชว์ลูกค้าธุรกิจสื่อสารไร้สายครึ่งปีแรกโต 500%
ทีโอที โชว์ลูกค้าธุรกิจสื่อสารไร้สายครึ่งปีแรกโต 500% ชูจุดแข็งให้บริการแบนด์วิดท์ใหญ่สุดบนคลื่น 2100 MHz เเละ คลื่น 2300 MHz พร้อมเปลี่ยนแบรนด์เป็น TOT mobile
ชูจุดแข็งให้บริการแบนด์วิดท์ใหญ่สุดบนคลื่น 2100 MHz เเละ คลื่น 2300 MHz พร้อมเปลี่ยนแบรนด์เป็น TOT mobile

วันที่ 6 กันยายน 2561 นายรังสรรค์ จันทร์นฤกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจสื่อสารไร้สาย บมจ.ทีโอที เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก (ม.ค.-ส.ค.2561) มีรายได้จากการดำเนินงานประมาณ 8,000 ล้านบาท  กำไรจากการดำเนินงานประมาณ 3,200 ล้านบาท และกำไรสุทธิกว่า 500 ล้านบาท โดยในส่วนของลูกค้าของธุรกิจสื่อสารไร้สายของ ทีโอที ครึ่งปีแรกมีลูกค้า จำนวน 619,700 ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวนกว่า 500,000 ราย คิดเป็นร้อยละกว่า 500 ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความได้เปรียบในด้านแบนด์วิดท์ของบริการที่ใหญ่สุดจากคลื่น 2100MHz และคลื่น 2300 MHz  ตั้งเป้าสิ้นปี 61 คาดว่าจะมีลูกค้ารวม 700,000 เลขหมาย นอกจากนี้ ไตรมาสสุดท้ายของ ปีนี้ ทีโอที จะมีการทดสอบตลาดบริการตัวใหม่อินเทอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง (Fixed Wireless Broadband) ไปยังพื้นที่ที่การให้บริการทางสายไม่คุ้มค่า ไม่เหมาะสม หรือไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย เช่น อาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม บ้านพักที่อยู่อาศัย โดยอาศัยโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 4G LTE-Advance 2300 ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ปลายทางแบบประจำที่ (CPE) แบบไร้สาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายในปัจจุบัน

นายรังสรรค์ จันทร์นฤกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจสื่อสารไร้สาย บมจ.ทีโอที   กล่าวว่า  ธุรกิจของหน่วยธุรกิจสื่อสารไร้สาย ประกอบด้วย การให้บริการไร้สายบนคลื่นความที่ย่าน 2100 MHz และ 2300 MHz ในรูปแบบ Network Provider โดยร่วมกับพันธมิตรธุรกิจ  บริการโมบายบรอดแบนด์ ซึ่งปัจจุบัน ทีโอที ได้เปลี่ยนชื่อบริการจาก TOT 3G เป็นบริการ TOT mobile เพื่อให้รองรับกับการให้บริการด้วยเทคโนโลยี 3G และ 4G ด้วยคลื่น 2100 MHz และคลื่น 2300 MHz  โดยมีกลุ่มเป้าหมายลูกค้าในเขตเมือง และเขตชานเมือง ทั้งนี้ ปัจจุบัน ทีโอที ได้เปลี่ยนชื่อบริการจาก TOT 3G เป็นบริการ TOT mobile เพื่อให้รองกับคลื่น 2100 MHz และคลื่น 2300 MHz ซึ่งจะสร้างความได้เปรียบคู่แข่งด้วยแบนด์วิดท์ที่ใหญ่และกว้างที่สุด ปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการถึง 619,700 ราย ทั้งนี้ ทีโอที ตั้งเป้าสิ้นปี 2561 จะมีลูกค้ารวม 700,000 เลขหมาย แบ่งเป็นรายย่อยประมาณ 55,000 เลขหมาย ลูกค้าองค์กร ประมาณ 65,000 เลขหมาย และ ลูกค้า ขายส่ง MVNO ประมาณ 580,000 รวมถึง ทีโอที ได้นำความจุของโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของทั้ง 2 ย่าน มาพัฒนาให้บริการกับลูกค้า ทั้งบริการขายส่ง กับพันธมิตร MVNO  บริการ International Roaming บริการ IoT และบริการ solution โดยในเทคโนโลยี Mobile Broadband

นอกจากนี้ หน่วยธุรกิจสื่อสารไร้สายของ ทีโอที ยังมีบริการสื่อสารไร้สายประเภทต่าง ๆ เพื่อให้บริการลูกค้า ทั้งบริการวงจรเช่าส่วนบุคคล บริการ Satellite และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไปยังพื้นที่บริการทางสายไม่สามารถเข้าถึง หรือไม่คุ้มค่าเหมาะสม โดยใช้โครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 4G LTE-Advance 2300 ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ปลายทางแบบประจำที่ (CPE) แบบไร้สาย ด้วยอุปกรณ์ทั้งแบบ Outdoor   และ Indoor อาทิ คอนโดมิเนียม  อาคารสูง หรือประเภทลูกค้าที่ไม่ได้ใช้งานเป็นประจำ เช่น นิสิต นักศึกษาตามหอพัก และอพาร์ทเม้นท์ชั่วคราว เป็นต้น       สำหรับมาตรการตลาดปัจจุบัน ทีโอที เน้นการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มตามพื้นที่ที่โครงข่ายครอบคลุม  โดยใช้จุดเด่นในด้านแบนด์วิดท์ที่ใหญ่และกว้างที่สุด ด้วยการจัดแพคเกจโปรโมชั่นราคาที่ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของลูกค้า รวมถึงการจัดกิจกรรมสนับสนุนการขายต่าง ๆ โดยจะเจาะกลุ่มลูกค้าทั้งระดับองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน กลุ่มลูกค้า SME และลูกค้า Mass ที่กระจายทั่วประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เน็ตประชารัฐ

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดศูนย์ดิจิทัลชุมชนตำบลมะม่วงสองต้น อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
อ่านต่อ
NT

รมว.ดีอีเอส นำ ผู้บริหาร และพนักงาน NT ลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
อ่านต่อ
ข่าวประชาสัมพันธ์

NT เปิดตัวบริการ “Health Link” ระบบเชื่อมโยงข้อมูลประวัติการรักษาผู้ป่วยสถานพยาบาลรัฐ-เอกชนกว่า 100 แห่ง
อ่านต่อ
ข่าวประขาสัมพันธ์

ธนาคารออมสิน จับมือ NT ร่วมพัฒนาสังคม ชุมชน ผ่านโครงการ CSR พร้อมนำชุมชน เข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้กับชุมชน
อ่านต่อ
รางวัล

NT ได้รางวัลรับรองมาตรฐานการให้บริการของศูนย์ราชการสะดวก (GECC) ประจำปี 2564 ให้แก่หน่วยงานที่ผ่านการรับรอง
อ่านต่อ