TOT_NT_feb_web mobile  insidebanner
SME-tips

NT โครงข่ายโทรคมนาคม คลื่นลูกใหม่เสริมธุรกิจไทยให้ดังไกลระดับโลก
NT โครงข่ายโทรคมนาคมที่น่าจับตามอง เป็นการรวมตัวระหว่าง TOT และ CAT เพื่อยกระดับบริการให้มีประสิทธิภาพ ผลักดันธุรกิจไทยให้ก้าวไกลระดับโลก
TOT_NT_feb_web coverbanner

ช่วงหลายปีที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกของเราได้ก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนทั่วโลก โดยเฉพาะภาคธุรกิจ ระบบเครือข่าย 5G ความรวดเร็วแม่นยำ และบริการอินเทอร์เน็ตที่ช่วยเชื่อมต่อข้อมูลต่างๆ กลายเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ซึ่งในขณะที่ทั่วโลกกำลังแข่งขันกันพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ในฟากฝั่งของประเทศไทยเราก็ไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์ เพื่อต่อยอดศักยภาพด้านเทคโนโลยี ด้วยการพัฒนาระบบโครงข่ายโทรคมนาคมที่ครอบคลุมทุกมิติพื้นที่อย่างไร้ขีดจำกัดในนาม บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)

TOT_NT_feb_web 1

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในวงการบริการด้านโครงข่ายโทรคมนาคม นั่นคือการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท ทีโอที จำกัด มหาชน หรือ TOT และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ภายใต้ชื่อใหม่ว่า บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือเรียกโดยย่อว่า NT (National Telecom Public Company Limited) ที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา การผนึกกำลังกันในครั้งนี้ทำให้ NT มีบริการที่ครบวงจรมากที่สุดแห่งหนึ่ง และพร้อมเดินหน้าด้วยความมุ่งมั่นเพื่อเป็นผู้นำด้านบริการโทรคมนาคมติดอันดับ 1 ใน 3 ของไทย


จุดเริ่มต้นในการควบรวม 2 ยักษ์ใหญ่



NT เป็นการรวมจุดเด่นของทั้ง 2 บริษัท คือ TOT และ CAT โดย TOT มีจุดเด่นทางด้านการให้บริการอินเทอร์เน็ตสำหรับองค์กร อินเทอร์เน็ตบ้าน เครือข่ายโทรศัพท์บ้าน และโทรศัพท์มือถือทั่วประเทศ ในขณะที่ CAT มีจุดเด่นทางด้านระบบโครงข่ายโทรคมนาคม ระบบการสื่อสารผ่านดาวเทียมทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ ถือได้ว่าเป็นการร่วมมือกันเพื่อเสริมศักยภาพขององค์กรให้มีความพร้อมในการแข่งขันมากยิ่งขึ้น และร่วมกันสร้างบริการโครงข่ายโทรคมนาคม พร้อมทั้งขยายสัญญาณให้ครอบคลุมทุกความต้องการ


ประโยชน์จากการผนึกกำลังที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว


เนื่องจากพฤติกรรมของคนในสังคมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นการควบรวมกิจการครั้งสำคัญนี้จึงสามารถตอบโจทย์ทั้งในแง่มุมพฤติกรรมของคนในยุคดิจิทัล และทำให้ภาคส่วนต่างๆ ได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง เช่น ลดความซ้ำซ้อนในการลงทุนของภาครัฐ เสริมศักยภาพในการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด ภาคธุรกิจทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ มีตัวช่วยในการบริหารงานให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และที่สำคัญประชาชนจะได้มีบริการด้านโทรคมนาคมที่มีประสิทธิภาพ สามารถเข้าถึงบริการได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

NT ความโดดเด่นที่น่าจับตา

จากการควบรวมเป็น NT ทำให้มีสินทรัพย์มากถึง 300,000 ล้านบาท ถือเป็นบริษัทที่มีโครงข่ายโทรคมนาคมที่ครบวงจรมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งทรัพยากรเด่นๆ ที่ทาง NT จะนำไปพัฒนาต่อยอดในอนาคต ประกอบไปด้วย

  • เสาโทรคมนาคมที่กระจายไปทั่วประเทศกว่า 25,000 ต้น
  • เคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศจำนวน 9 ระบบ14 POP สามารถเชื่อมต่อไปยังทุกทวีปทั่วโลก
  • คลื่นความถี่ 5G ที่ให้บริการ 6 ย่าน ปริมาณรวม 600 MHz
  • ท่อร้อยสายใต้ดินทั่วประเทศระยะทาง 4,600 กิโลเมตร ทั่วประเทศไทย
  • สายใยแก้วนำแสงจำนวน 4 ล้านคอร์กิโลเมตร
  • Data Center 13 แห่ง ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
  • ระบบโทรศัพท์ระหว่างประเทศที่ทุกเลขหมายในโลกสามารถเข้าถึงได้

นอกจากนี้ NT ยังมีกลุ่มพันธมิตรธุรกิจที่ครอบคลุมด้านต่างๆ อย่างรอบด้าน ประกอบด้วย อินเทอร์เน็ต สัญญาณโทรศัพท์ เสาเคเบิลต่างๆ ถือได้ว่าเป็นบริษัทโครงข่ายโทรคมนาคมที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากทั้งในวันนี้และอนาคต ได้แก่

TOT_NT_feb_web 2

ธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Hard Infrastructure)

จะมุ่งเน้นการให้บริการทางด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบที่มีการลงทุนสูง พร้อมขยายโครงข่ายโทรคมนาคมพื้นฐานให้ครอบคลุม มีประสิทธิภาพและเพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละพื้นที่ เนื่องจาก NT มีสินทรัพย์ด้านโครงสร้างพื้นฐานอยู่แล้วทำให้มีความได้เปรียบด้านการบริการ ทั้งยังมีความเป็นกลางในการบริหารจัดการทำให้ NT สามารถตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจต่างๆ ได้อย่างครอบคลุมทุกมิติ 

กลุ่มธุรกิจ International

จากที่ได้กล่าวไปเบื้องต้นว่า NT มีระบบโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำ มีความเชี่ยวชาญ และมีชื่อเสียงด้านธุรกิจระหว่างประเทศเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงทำให้สามารถนำมาต่อยอดบริการเกี่ยวกับการเชื่อมต่อระหว่างประเทศ มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่ให้บริการระหว่างประเทศ หรือกลุ่มธุรกิจ FBB Mobile เพื่อสร้างบริการที่ตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจนี้ และพร้อมพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนของข้อมูลดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน

กลุ่มธุรกิจ Fixed Broadband (FBB)

ให้บริการทางด้านโครงข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมยกระดับบริการให้มีคุณภาพ และพัฒนาต่อยอดให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค นอกจากนี้ NT ยังมีความพร้อมด้านทรัพยากรโครงข่ายคมนาคม ทำให้มีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งในตลาด อีกทั้ง NT ยังมีพนักงานที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศทำให้ผู้บริโภคอุ่นใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องการบริการหลังการขาย

TOT_NT_feb_web 3

กลุ่มธุรกิจ Mobile

เนื่องจากทรัพยากรด้านโครงข่ายโทรศัพท์ของ NT มีคลื่นความถี่ที่หลากหลาย มีคุณภาพสูง ทำให้ NT มองเห็นความได้เปรียบในการแข่งขัน จึงนำมาพัฒนาต่อยอดโดยเน้นให้บริการทางด้านโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการที่ใช้คลื่นความถี่คุณภาพสูง ซึ่งในอนาคต NT มีเป้าหมายด้านความร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจระดับแนวหน้า เพื่อสร้างบริการที่หลากหลายและครบวงจรมากขึ้น

กลุ่มธุรกิจ Digital

เน้นการให้บริการและพัฒนาด้านดิจิทัลสำหรับกลุ่มธุรกิจในประเทศให้สามารถสร้างรายได้ สร้างบริการใหม่ๆ และต่อยอดทางธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น พร้อมร่วมขับเคลื่อนบริการต่างๆ ของภาครัฐให้ก้าวทันโลกยุคใหม่ และนำโครงการของภาครัฐที่มีอยู่เดิมไปพัฒนาเพื่อสร้างบริการใหม่ๆ ที่ตรงตามความต้องการของประชาชน

TOT_NT_feb_web 4

ทั้งหมดนี้เป็นภาพรวมของการผนึกกำลังของ TOT และ CAT การควบรวมสององค์กรเป็นหนึ่งเดียวที่นำไปสู่การสร้าง NT องค์กรใหม่ที่ทรงพลังและแข็งแกร่ง เพื่อสร้างบริการที่ตอบโจทย์ มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งมีสัญญาณเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และขยายการบริการระหว่างประเทศ เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการช่วยเหลือภาคธุรกิจให้เติบโตเหนือคู่แข่ง นอกจากนี้ NT ยังเป็นบริการโครงข่ายโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เรียกได้ว่าสอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจในยุคดิจิทัล พร้อมทั้งสามารถช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศให้ก้าวไกลในระดับโลก ทั้งนี้สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์ทางการของ NT ที่ http://bit.ly/3r5URqX