ก่อนหน้านี้หากพูดถึงการทำงานในออฟฟิศ หลายคนคงมองภาพเป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ใจกลางเมือง แต่ปัจจุบันไลฟ์สไตล์การทำงานของรุ่นใหม่เปลี่ยนไป โฮมออฟฟิศจึงเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่มีอีกหลายคนที่ยังข้องใจว่าจริง ๆ แล้ว “โฮมออฟฟิศ” กับ “ทาวน์โฮม” นั้นเหมือนหรือต่างกันอย่างไร แล้วถ้าจะเลือกซื้อทาวน์โฮมเพื่อดัดแปลงเป็นออฟฟิศจะคุ้มค่า หรือเหมาะสมหรือไม่ ลองอ่านบทความนี้ดูก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ เพื่อให้ได้ฟังก์ชันที่เหมาะสมกับการใช้งานและคุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุด

โฮมออฟฟิศคืออะไร

(ภาพจาก DDproperty https://www.ddproperty.com/รวมโครงการใหม่/รีวิวโครงการใหม่/พรีวิวโครงการใหม่-ไวท์-วอลล์-ศรีนครินทร์-white-wall-srinakarin-181054)

“โฮมออฟฟิศ” เป็นบ้านที่ออกแบบ และถูกจัดสรรพื้นที่ใช้สอยอย่างเป็นสัดส่วน เพื่อให้อำนวยกับการทำงานโดยเฉพาะ มีจุดประสงค์ให้สามารถใช้เป็นทั้งที่พักและที่ทำงานในเวลาเดียวกัน

การทำงานในบรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน นอกจากจะให้ความรู้สึกอิสระทั้งในเรื่องเวลาและไลฟ์สไตล์แล้ว ยังทำให้รู้สึกผ่อนคลายและเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

 

ข้อดี

• ใช้เป็นที่พักได้ในตัว

  • สามารถใช้เป็นสถานที่ทำงาน และท่ีพักได้ในตัว ทำให้เจ้าของธุรกิจไม่ต้องเสียเงิน 2 ต่อในการซื้อบ้าน และเช่าออฟฟิศ รวมถึงไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางด้วย

• ยืดหยุ่น และผ่อนคลาย

  • โฮมออฟฟิศจะให้บรรยากาศสบาย ๆ ผ่อนคลาย เป็นกันเอง และมีความยืดหยุ่นทั้งเรื่องการแต่งกาย และเวลาการทำงาน

• ลดต้นทุนที่ซ้ำซ้อน

  • ลดต้นทุนซ้ำซ้อนที่ต้องจ่ายทั้งที่บ้านและที่ออฟฟิศ เช่น ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัทพ์ หรือค่าส่วนกลางต่าง ๆ ก็สามารถรวบจ่ายในบิลเดียวกันได้
    
    

ข้อเสีย

• ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือ

  • ปกติแล้วโฮมออฟฟิศมักจะถูกว่ามีภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่นัก เนื่องจากบรรยากาศภายในมีความเป็นทางการน้อยกว่าออฟฟิศที่อยู่ในอาคารสำนักงาน

• ทำเลส่วนใหญ่อยู่ค่อนข้างไกล

  • ทำเลส่วนใหญ่มักอยู่ชานเมือง หรือต้องเข้าซอยไปค่อนข้างลึก ทำให้เดินทางลำบาก หรือหากทำเลไหนอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางเมือง หรืออยู่ใกล้รถไฟฟ้า ก็จะมีราคาที่สูงมาก

• ต้องลงทุนก้อนใหญ่ในการซื้อเฟอร์นิเจอร์

  • ในช่วงแรกผู้ประกอบการต้องลงทุนก้อนใหญ่ในการซื้อเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์เครื่องใช้ในสำนักงานเองทั้งหมด ในขณะที่ถ้าเช่าสำนักงานบางที่จะมีโต๊ะทำงาน ชั้นวางของ หรืออุปกรณ์สำนักงานพื้นฐานให้บ้างบางส่วน
    
    

ทาวน์โฮมคืออะไร

(ภาพจาก Sansiri https://www.sansiri.com/townhome/siri-place-ratchapruek-rama5/th/#LOFT128-1)

จริง ๆ  แล้วคำว่า “ทาวน์โฮม” นั้นเป็นคำศัพท์ที่ถูกนิยามขึ้นใหม่ ถูกพัฒนามาจากคำว่า ทาวน์เฮาส์ เพื่อใช้ในวงการอสังหาริมทรัพย์ แต่ทาวน์โฮมจะสื่อสารถึงความเป็นครอบครัว ให้ความรู้สึกอบอุ่นมากกว่า จึงทำให้ผู้ประกอบการนิยมใช้คำว่าทาวน์โฮมมากกว่าทาวน์เฮาส์นั่นเอง

 

ข้อดี

• ราคาถูกกว่า

  • หากมองในแง่ราคาแล้วจะพบว่าทาวน์โฮมนั้นมีราคาที่ถูกกว่า หากเปรียบเทียบกับบ้านเดี่ยว และบ้านแฝดที่อยู่ในทำเลเดียวกัน จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวใหม่ หรือครอบครัวขนาดเล็กที่กำลังจะมองหาบ้านใหม่สักหลัง

• ดูแลง่ายกว่า

  • เนื่องจากทาวน์โฮมจัดเป็นที่อยู่อาศัยขนาดเล็ก และไม่มีสวน หรือพื้นที่ด้านนอกมากนัก จึงทำให้การดูแล หรือการทำความสะอาดนั้นทำได้ค่อนข้างง่าย ไม่เปลืองแรง สามารถทำได้บ่อย และดูแลได้อย่างทั่วถึง
    
    

ข้อเสีย

• พื้นที่น้อยกว่า

  • เนื่องจากทาวน์โฮมมีพื้นที่ใช้สอยน้อย จึงไม่เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ เพราะบ้านมีขนาดเล็ก ทำให้เก็บของไม่ได้มากนัก เพราะยิ่งมีของมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้บ้านดูอึดอัด คับแคบมากขึ้นด้วย

• มีความเป็นส่วนตัวน้อย

  • สำหรับทาวน์โฮมนั้นต้องใช้พื้นที่ผนังร่วมกับเพื่อนบ้าน ทำให้เวลาจะซ่อมแซม หรือต่อเติมนั้นอาจจะเป็นการรบกวน นอกจากนี้การที่ต้องอาศัยอยู่ติดกับเพื่อนบ้านอาจจะมีปัญหาเรื่องเสียงดังรบกวน หรือปัญหาที่จอดรถ ทำให้นอกจากจะไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัวแล้วอาจเกิดปัญหากระทบกระทั่งกันได้

   

ความแตกต่างระหว่างโฮมออฟฟิศ VS. ทาวน์โฮม

แม้รูปลักษณ์ รวมถึงการตกแต่งภายนอกจะมีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง แต่หากมองลึกไปถึงรายละเอียดแล้วจะพบว่า “โฮมออฟฟิศ” และ “ทาวน์โฮม” นั้นมีความต่างกันอยู่มาก วันนี้เราจึงนำความแตกต่างที่เห็นได้ชัด ๆ ของที่พักสองประเภทนี้มาอธิบายให้ได้ฟังกัน

วัตถุประสงค์ในการสร้างต่างกัน

• โฮมออฟฟิศ

  • ความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนนั่นก็คือวัตถุประสงค์ในการสร้าง โดยโฮมออฟฟิศ ถูกออกแบบให้มีความยืดหยุ่นในการใช้พื้นที่ สามารถปรับเปลี่ยนพื้นท่ีชั้นล่างได้อย่างอิสระ เพื่ออำนวยความสะดวกในการรองรับกับธุรกิจที่หลากหลาย

• ทาวน์โฮม

  • สำหรับทาวน์โฮมนั้นมีวัตถุประสงค์ในการสร้างขึ้นสำหรับอยู่อาศัยโดยเฉพาะ จึงมีความยืดหยุ่นของฟังก์ชันการใช้งานที่น้อยกว่าโฮมออฟฟิศนั่นเอง
    
    
    

จำนวนชั้นและพื้นที่ใช้สอย

• โฮมออฟฟิศ

  • สำหรับการออกแบบพื้นที่ใช้สอยของโฮมออฟฟิศจะมีการแบ่งสัดส่วนของสำนักงาน และที่พักอาศัยออกจากกันอย่างชัดเจน รวมถึงการวางระบบไฟ ท่อแอร์ ตำแหน่งเสาและคาน รวมถึงที่จอดรถที่ส่วนใหญ่จะออกแบบให้สามารถจอดรถหลายคัน เพื่อให้เอื้อประโยชน์ในการใช้งานในรูปแบบสถานที่ทำงานมากที่สุด โดยส่วนมากโฮมออฟฟิศจะมีความสูงอยู่ที่ 3-5 ชั้น

• ทาวน์โฮม

  • ทาวน์โฮมนั้นจะมีรูปแบบการใช้สอยเป็นบ้านแบบ 100% การแบ่งสัดส่วนของพื้นที่ก็จะคำนึงถึงประโยชน์การใช้สอยของสมาชิกในบ้านเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นในตำแหน่งของห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องนอน ส่วนซักล้าง หรือแม้กระทั่งระเบียง โดยส่วนใหญ่แล้วที่จอดรถนั้นมักจะถูกจำกัดแบบตายตัวเพียงบ้านละ 1-2 คัน ตามขนาดของตัวบ้าน สำหรับความสูงของทาวน์โฮมจะสูงเพียง 2-3 ชั้นเท่านั้น
    
    

ข้อกำหนดทางกฏหมาย

• โฮมออฟฟิศ

  • ตามกฎหมายโฮมออฟฟิศจัดอยู่ในประเภทอาคารพาณิชย์ หมายถึงอาคารที่ใช้ประโยชน์เพื่อการบริการธุรกิจ หรือพาณิชยกรรม โดยตัวบทกฏหมายกำหนดให้ตัวอาคารต้องห่างจากเขตที่ดินด้านหลังไม่เกิน 2 เมตร ส่วนด้านหน้าของตัวอาคารมีความห่างได้ถึง 20 เมตร เพื่อประโยชน์ในการทำธุรกิจ โดยใช้เป็นที่จอดรถสำหรับส่วนรวม เพื่อความสะดวกต่อผู้อยู่และลูกค้าที่มาติดต่องาน

• ทาวน์โฮม

  • ทาวน์โฮมในทางกฎหมายแล้ว หากมีจำนวนชั้นไม่เกิน 3 ชั้น จะจัดอยู่ในประเภทบ้านแถว ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ตัวอาคารต้องห่างจากเขตที่ดินด้านหลังไม่เกิน 2 เมตร ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง
    
    
    

เปลี่ยนทาวน์โฮมให้เป็นโฮมออฟฟิศได้หรือไม่?

สำหรับเจ้าของธุรกิจที่ต้องการเปลี่ยนทาวน์โฮมให้เป็นโฮมออฟฟิศนั้นก็สามารถทำได้ ไม่ได้ผิดข้อกฎหมายแต่อย่างใด เพียงแต่คุณต้องไม่ลืมวัตถุประสงค์ต้ังต้นในการก่อสร้างที่ว่าทาวน์โฮมถูกดีไซน์ไว้เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น จึงทำให้ฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ไม่เอื้อต่อการปรับเปลี่ยนพื้นที่เป็นสำนักงานเท่าที่ควร ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนทาวน์โฮมให้เป็นโฮมออฟฟิศจริงๆ ล่ะก็ ต้องมั่นใจว่าพื้นที่ที่มีอยู่เพียงพอกับจำนวนคนทำงาน เดินทางสะดวก มีที่จอดรถดพียงพอต่อพนักงานและลูกค้า รวมทั้งไม่มีแผนว่าจะขยายธุรกิจในเร็วๆ นี้ ถ้าเคลียร์ครบหมดทุกประเด็นแล้วก็คงไม่มีปัญหาอะไร หากคุณจะดัดแปลงทาวน์โฮมให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ